หลังจากไม่ได้เขียนบลอกมานาน จนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีอยู่
วันนี้หลังจากรู้สึกว่าง บวกกับคิดถึงรัสเซียแบบแปลกๆ
ก็เลยคิดว่าควรจะแบ่งปันความรู้ที่พอมีอยู่น้อยนิด ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้อ่านกันบ้าง
มาเริ่มกันเลยก็แล้วกันนะคะ
-----------------------------------------------------
เมืองคาซาน (Казань) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐตาตาร์สถานแห่งประเทศรัสเซียค่ะ มีประชากรประมาณ 1 ล้านกว่าคน และนับเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอับดับ 8 ของประเทศรัสเซียค่ะ คำว่า "คาซาน" นั้นยังไม่มีใครรู้ความหมายที่แน่ชัด แต่ตำนานที่โด่งดังมากๆคือมาจากคำว่า "qazan" ในภาษาบูลการ์ หรือภาษาตาตาร์ แปลว่า หม้อ นั่นเอง
ภาพพาโนรามาของเมืองคาซาน บริเวณเครมลินค่ะ cr: http://fratria.ru/ontour/russia/kazan |
ว่ากันว่าเมืองคาซานนี้สร้างขึ้นมาได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ปีแล้วค่ะ
โดยอ้างอิงข้อมูลจากส่วนของเครมลินที่คาซานนั่นเอง
คำว่า "เครมลิน" นั้นคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักในนามของพระราชวัง
แต่จริงๆแล้วแปลว่า ป้อมปราการค่ะ
ซึ่งภายในป้อมปราการนั้นก็จะมีทั้งพระราชวัง ที่ทำการของรัฐบาล วิหารต่างๆ
แต่ก็มีหลายความเห็นที่ว่าคาซานตั้งมาเมื่อปี 1300 กว่าๆเท่านั้น จะยังไงก็ตามแต่
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 (ช่วงปี 1438 - 1552) นั้นคาซานถูกปกครองแบบจักรวรรดิข่าน
จนกระทั่งปี 1552 ภายใต้การนำของพระเจ้าอีวานที่ 4 คาซานก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
มีการเผาเมืองเพื่อทำลายวัฒนธรรมแบบข่านทิ้งไป
และในปี 1556-1562 ก็ได้เริ่มการก่อสร้างพระราชวังเครมลินสีขาวขึ้นมาใหม่
โดยใช้ช่างชาวปสคอฟชื่อนายโปสทนิค ยาคอฟเลฟ และ นายอีวาน ชีเรียเยฟ ซึ่งเป็นผู้คุมการก่อสร้างโบสถ์หยดเลือดที่จัตุรัสแดงเข้ามาดูแลการรีโนเวทเครมลินและกำแพงทีนี่แทนค่ะ
ภาพคาซานสมัยช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ค่ะ cr: http://komanda-k.ru/ |
เดิมทีตัวเครมลินสร้างด้วยไม้ แต่แบบใหม่นี้สร้างออกมาให้มี 13 หอคอย
ว่ากันว่าสร้างใหม่อย่างไรก็ไม่สวยเท่าสมัยข่าน
แถมยังมีรับสั่งให้มีการสร้างโบสถ์คริสต์ออร์ธอด็อกซ์
รวมทั้งวิหารตามมาอีกมากมายด้วย
จนกระทั่งล่วงเลยผ่านยุคสมัยสหภาพโซเวียตไปแล้ว
ณ ตอนนี้ หอคอยทั้งหมดเหลือเพียงแค่ 8 หอ มีเพียงแค่ 2 หอที่นับเป็นทางเข้าหลักของเครมลิน
นั่นก็คือ หอเตือนภัย The Alarm Tower (Тайницкая башня)
และหอนาฬิกาหรือที่เรียกว่า The Saviour Tower (Спасская башня)
ซึ่งหออันหลังนี่ยังเป็นหอคอยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นอนุสรณ์สำคัญของสถาปัตยกรรมยุคกลางในรัสเซียด้วยค่ะ
หอนาฬิกาหรือที่เรียกว่า The Saviour Tower (Спасская башня) |
หอเตือนภัย The Alarm Tower (Тайницкая башня) cr: http://rus-luck.livejournal.com/6514.html |
หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต คาซานก็กลับกลายมาเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์
เป็นเมืองแขกเพราะวัฒนธรรมตาตาร์ได้กลับคืนมา
จึงทำให้คาซานเป็นเมืองที่น่าสนใจเมืองหนึ่งของรัสเซียเลยค่ะ
ทีนี้กลับมาเรื่องของเราค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือทริปนี้ไม่ได้เตรียมตัว
จริงๆเปิดเทอมแล้วด้วยตอนนั้น หลังจากกลับจากทรานส์ไซบีเรียทริปได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์
ก็น่าจะ 18-20 ก.พ. 2013 ค่ะ ไปกัน 3 วัน (ทำไมจำแม่น รูปในไอโฟนมันขึ้นวันที่ค่ะ)
ก็น่าจะ 18-20 ก.พ. 2013 ค่ะ ไปกัน 3 วัน (ทำไมจำแม่น รูปในไอโฟนมันขึ้นวันที่ค่ะ)
พอดีเมทจะพาหนุ่มไป เรากับเจ๊ก็เลยมาด้วย
เพราะคาซานกับเราเป็นเมืองที่คลาดกันตั้งแต่สมัย AFS
เอาง่ายๆคือไม่ได้มาซะที รอบนี้เลยมาด้วย
ซื้อตั๋วรถไฟมาจากเมืองเราค่ะ เยคาเตรินเบิร์ก > คาซาน
ใช้เวลาเดินทางน่าจะราวๆ 12 ชั่วโมง คือนอน 1 คืนพอดี
ราคาไม่ถึง 1,000 รูเบิ้ล (ถ้าเป็นตอนนี้ก็ 6-7 ร้อยบาท)
เราไปถึงประมาณเที่ยงๆได้ค่ะ มาถึงสถานีรถไฟก็หน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ
เอาจริงๆก็คือตอนนั้นกำลังก่อสร้างสถานีรถไฟ Kazan 2 ติดกันเลยค่ะ ใหม่เอี่ยมมากๆ เพราะว่าไว้ต้อนรับกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน ครั้งที่ 28 เมื่อปี 2013 ไปไหนก็จะมีป้ายภาษารัสเซีย อังกฤษ และตาตาร์อยู่เสมอ ไฮโซวววว อะตอนนี้เสร็จแล้ว ขอแนบรูปมาให้ชม
เราไปถึงประมาณเที่ยงๆได้ค่ะ มาถึงสถานีรถไฟก็หน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ
Kazan ตั้งอยู่ระหว่างมอสโกมาเยคาเตรินเบิร์กค่ะ ถ้าใครนั่งรถไฟจากมอสโกมาก็จะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง หรือ 1 คืนพอดีค่ะ |
สถานีรถไฟ Kazan 1 จำแหล่งที่มาไม่ได้ |
สถานีนี้ติดกับสถานีเดิมเลยค่ะ มีทางเดินเชื่อมกันเก๋ๆ |
(สำหรับใครที่สงสัยทำไมรอบนี้ บลอกแกมันมีแต่รูปติดเครดิตวะ แล้วรูปแกล่ะ
ตอบเลยค่ะว่าไม่มี 5555 ล้อเล่นๆ ก็มีบ้าง แต่น้อยมาก
พอดีว่ามีเพื่อนเรียนอยู่ที่นั่นคนนึงซึ่งเป็นคนติด social มากกกกกก
เราเลยไม่เน้นถ่ายรูปเลย ให้มันถ่าย ผลปรากฎจึงมีรูปวิวไม่เยอะ
แถมไปช่วงหิมะละลายเมืองเละมากค่ะ 555)
เราพักกันที่โฮสเทลแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตัวถนนคนเดินของเมืองค่ะ
เอาจริงลืมชื่อไปแล้วค่ะ แต่เป็นโฮสเทลเล็กๆเป็นกันเอง
ห้องนึงนอนได้ 4 คนก็พอพวกเราพอดีค่ะ
จัดแจงเก็บของเสร็จ อาบน้ำเล็กน้อยพองามก็ออกมาเดินเล่นกันค่ะ
จัดแจงเก็บของเสร็จ อาบน้ำเล็กน้อยพองามก็ออกมาเดินเล่นกันค่ะ
ที่แรกที่เราไปกันคือ...ถนนคนเดินค่ะ
หรือถนน Bauman ถนนนี้คนที่นี่เค้าเทียบเท่าถนนอารบัทของมอสโกเลย
รูปของเราถ่ายจากกล้อง iPhone 4 นะฮ้าาา บางรูปก็แต่งสีไว้แต่สมัยนู้น
บางรูปก็ไม่ได้แต่ง และนี่ก็ไม่ขยันจิแต่งด้วย 5555
Epiphany Cathedral หรือ Богоявленский собор ข้างๆที่เห็นหัวทองๆคือส่วนตัวโบสถ์ค่ะ สีฟ้า ยอดโดมหัวหอมสีทอง |
แมคโดนัลด์ก็สีสันสดใสมาก |
ธนาคาร |
เราก็เดินชมเมืองกันไปเรื่อยๆค่ะ ร้านอาหารที่นี่มีอาหารหลากหลายค่ะ
อาหารตาตาร์เองก็เยอะมากกก ที่โด่งดังก็มีหลายจานนะคะ
แต่ที่พลาดไม่ได้จริงๆก็คือขนมปังอบหรือพายไส้เนื้อ ที่เรียกว่า วัค-เบลิช (Вак-Белиш)
สำหรับใครไม่กินเนื้อ บางที่ก็มีไส้อื่นให้เลือกนะคะ เห็ดบ้าง มันฝรั่งบ้าง ไก่บ้าง
อีกอันนึงที่ไม่ควรพลาดก็คือซุปใส่เส้นหรืออารมณ์ก๋วยเตี๋ยวบ้านเราที่ชื่อว่า ต๊อกมาช (токмач)
และปิดท้ายด้วยขนมหวานสุดอร่อยและหว๊านหวานที่ชื่อว่า ชัค-ชัค (Чак-чак) ค่ะ
เวลารับประทานต้องกินกับชาค่ะ ปกติคนที่นี่จะกินชาไม่ใส่น้ำตาล
พอกินกับขนมหว๊านหวานก็จะเข้ากันได้พอดีค่ะ
ต๊อกมาช |
ชัค-ชัค |
เรากินกันจนอิ่มแล้วก็เดินต่อค่ะ ไปยังโบสถ์ Cathedral of the Apostles Peter and Paul
หรือที่เรียกว่า Петропавловский собор ซึ่งเป็นโบสถ์ออร์ธอด็อกซ์
ที่หน้าตาไม่เหมือนออร์ธอด๊อกซ์แม้แต่น้อยเลยค่ะ
โบสถ์เดิม ณ ที่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1565 ค่ะ แต่ต่อมาในสมัยพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1
เกิดสงครามรัสเซีย-เปอร์เซียขึ้นมา ซึ่งพระเจ้าปีเตอร์ได้รับชัยชนะในครั้งนั้น
ก็เลยมีการสร้างโบสถ์นี้ขึ้นใหม่ในปี 1722 เพื่อให้เกียรติแก่พระเจ้าปีเตอร์
โดยสร้างในสไตล์บารอคแบบมอสโก (Moscow Baroque หรือ Naryshkin Baroque)
ก็เลยมีการสร้างโบสถ์นี้ขึ้นใหม่ในปี 1722 เพื่อให้เกียรติแก่พระเจ้าปีเตอร์
โดยสร้างในสไตล์บารอคแบบมอสโก (Moscow Baroque หรือ Naryshkin Baroque)
ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึงต้น 18 นั่นเองค่ะ
ภาพจากวิกิพีเดีย |
ถ่ายคู่กับหอระฆังค่ะ คือฉากนี้มีแต่ตอนเผลอและไม่พร้อม จึงต้องขอเอาแอปเปิ้ลปิดหน้าเจ๊ ที่กำลังด่าเพื่อนที่ถ่ายด้วยประการฉะนี้ 555 |
เสร็จจากโบสถ์นี้เราก็เดินเล่นกันต่อค่ะ ชิวๆไปเรื่อยตามประสาเด็กโดดเรียน
ช่วงนั้นอากาศประมาณ -10 ถึง -15 ค่ะ
ถือว่าไม่หนาว ใส่โค้ทเดินได้สบายมากๆค่ะ
พอตกเย็นก็ไปทำธุระกันต่อเล็กน้อย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ค่ะ 5555
สำหรับวันแรกก็ยังไม่มีอะไรมาก เน้นชิวๆสบายๆ
เพราะมาจากอากาศ -25 ยังไงพี่มาเจออากาศแบบนี้ พี่ก็สบายอะนะ
ส่วนอีก 2 วันที่เหลือจะเป็นไง ไว้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
___________________
^_____^
ตอบลบ