หลังจากเที่ยวหมดไปแล้วหนึ่งวัน เช้าวันรุ่งขึ้นเราสี่คนก็เดินทางกันอีกครั้ง
โฮสเทลที่เราพักที่นี่ไม่มีอาหารเช้าให้ เราก็เลยออกมาหาอะไรกินกันเอง
คาเฟ่ที่เราเล็งไว้เมื่อวานระหว่างทางคือเป้าหมายของเราสี่คนในเช้านี้
ร้านนี้ชื่อว่า คูซีน่า (Кузина кафе) เป็นร้านชา กาแฟ แซนวิช และเบเกอรี่ต่างๆ
รสชาติถือว่าใช้ได้เลย ราคาก็ธรรมดาไม่แพงมาก แต่ข้อเสียคือไม่มีที่นั่ง
แต่มีโต๊ะกลมให้ยืนกิน จริงๆแล้วก็เป็นปกติของร้านคาเฟ่ขายขนมทั่วไปในรัสเซีย
และร้านบุฟเฟต์ที่มหาวิทยาลัยด้วย
และร้านบุฟเฟต์ที่มหาวิทยาลัยด้วย
บรรยากาศภายในร้าน |
ชาและขนมของพี่หญิงปี |
หลังจากกินเสร็จ เราจะไปเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำอ็อบกัน เพราะเป็นแม่น้ำสายหลักของเมือง
จริงๆแล้วอากาศแบบนี้ นี่ทั้งหนาวและลมแรง
แต่ไหนๆก็มาแล้ว เราก็นั่งรถไฟใต้ดินจากในเมืองออกนอกเมืองกัน
ตามที่เคยบอกไว้ใน Trans-Siberian Lil Trip 2
ว่าเราหาเส้นทาง ข้อมูลการเดินจากในแอพ 2GIS นะคะ
สำหรับรถไฟใต้ดินของเมืองโนโวฯแห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 1985 และเป็นรถไฟใต้ดินที่นับว่าอยู่ในเขตตะวันออกสุดของรัสเซีย ก็คือถัดจากเมืองนี้ไปแล้ว เราจะไม่เจอเมืองไหนมีรถไฟใต้ดินอีก จนสุดเขตรัสเซียฝั่งตะวันออกก็คือเมืองวลาดิวอสตอกเลย
ส่วนค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาทต่อเที่ยว
ส่วนค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาทต่อเที่ยว
นั่งจากสถานีจัตุรัสเลนิน (Площадь Ленина) ไปลงสถานีเรียชนัย วัคซาล (Речной Вокзал) |
ปกติรัฐบาลรัสเซียเค้าสั่งห้ามถ่ายรูปสถานีรถไฟใต้ดินนะคะ แต่แอบถ่ายมา
เพราะจริงๆแล้วสถาปัตยกรรมในสถานีรถไฟใต้ดินแต่ละที่ น่าสนใจและก็สวยงามแตกต่างกัน
สำหรับที่นี่จะเป็นกระจกสีๆ ประกอบกันเป็นรูปเมืองแถบๆไซบีเรียเรียงกันอยู่
ภาพเมืองโนโวคุซเนียสก์ |
เมื่อออกจากสถานีรถไฟใต้ดินแล้ว เราก็ข้ามถนนเดินไปฝั่งเลียบแม่น้ำกันเลย
ปกติแล้วหนาวขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่น้ำสำคัญ น้ำจะแข็งจนสามารถลงไปเดินได้
แต่แม่น้ำนี้เป็นการจราจรที่สำคัญทางการค้า และส่งสินค้าของแถบนี้ค่ะ
ตรงกลางก็เลยไม่แข็ง แถมยังมีเรือสินค้าให้เห็นอยู่ไกลๆด้วย (หลังสะพาน)
ปกติแล้วหนาวขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่น้ำสำคัญ น้ำจะแข็งจนสามารถลงไปเดินได้
แต่แม่น้ำนี้เป็นการจราจรที่สำคัญทางการค้า และส่งสินค้าของแถบนี้ค่ะ
ตรงกลางก็เลยไม่แข็ง แถมยังมีเรือสินค้าให้เห็นอยู่ไกลๆด้วย (หลังสะพาน)
ท่าเรือแข็ง สะพานไกลๆที่เห็นมี 2 ชั้นนะคะ ชั้นบนสำหรับรถยนต์ ชั้นล่างสำหรับรถไฟใต้ดิน |
แม่น้ำอ็อบ (Обь) |
นอกจากนี้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอ็อบยังมีเมืองน้ำแข็ง และของเล่นเด็กๆด้วย
แต่ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่เค้าเลิกกันแล้ว คือเมืองน้ำแข็งปิดให้เข้า เตรียมทุบกันแล้ว
ที่สำคัญเสียเงินด้วยอ่ะ เปลือง 555555
เมืองน้ำแข็ง และของเล่นเด็ก |
จากนั้นเราสี่คนก็ไปหาอะไรกินอีกครั้ง คืออากาศแบบนี้ เดินเยอะมันก็ใช้แรงเยอะอ่ะนะ
เราก็เลยไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน เพราะว่าใกล้ ง่าย และถูกปากสุด
จากนั้นก็คิดกันต่อว่าเราจะไปเที่ยวไหนต่อดี (แหม เป็นการเที่ยวที่นี่แผนมากๆ)
เราเลือกไปจัตุรัสมาร์กซ์ค่ะ เพราะว่าเป็นเขตอื่นของเมือง
จากที่เราอยู่ก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อไปอีก 2 สถานี ลงป้ายจัตุรัสมาร์กซ์เลย
ตามพี่เจมส์มาลงจัตุรัสมาร์กซ์ (Площадь Маркса) กันเลย |
พอเดินออกกันมาแล้ว เราก็เดินไปทางเส้นวงเวียนเลยค่ะ รถเยอะรถแยะ
แต่ฝั่งขวามือจะเป็นอนุสาวรีย์คนสำคัญของเมืองค่ะ
จริงๆแล้วคนรัสเซียนิยมสร้างอนุสาวรีย์ให้กับวีรบุรุษสมัยสหภาพโซเวียต
นอกจากเลนินผู้นำทางอุดมการณ์แล้ว ยังมีวีรบุรุษของแต่ละเมืองด้วย
อย่างที่นี่ก็มีอนุสาวรีย์เฮียอเล็คซานเดอร์คนนี้
จากนั้นเราก็กลับเข้าเมืองกันใหม่ จะไปพิพิธภัณฑ์กัน แต่ปรากฏว่าปิดปรับปรุงยาวเลย
แล้วเราก็เลยไปซื้อโปสการ์ดกับอาหารมากินกันที่โฮสเทลแทน
เพราะวันนี้อยู่ข้างนอกมาทั้งวัน หนาวกันจนตัวจะแตก
หน้าตาโปสการ์ดบางแผ่น |
เช้าวันที่สาม เราเช็คเอ้าท์ ฝากกระเป๋าแล้วจึงมุ่งไปที่ไปรษณีย์กันก่อนเพื่อส่งโปสการ์ด
ค่าส่งไปต่างประเทศใบละ 20-30 บาท ส่งหากันข้ามเมือง 12 บาท
อย่าถามว่าทำไมจำได้ จะจำไม่ได้ได้ไงก็เราสี่คนตกลงจะเขียนแลกส่งหากัน
แล้วมันมาไม่ถึงอะสิ เซ็งเป็ด!!!
เส้นทางจากที่พักไปไปรษณีย์ค่ะ ดูก็หนาวแล้วเนอะ |
ตึกรัฐบาล มีรูปปั้นคนอีกแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน เลนินของเรานั่นเอง แต่มาแบบตัวเกือบเท่าขนาดจริง (เล็กกระจึ๋งนึง เฮียแกตัวเตี้ย) |
จากนั้นด้วยแรงบันดาลใจจากภาพในโปสการ์ด
โบสถ์สวยงาม น่าไปเยี่ยมเยือนมากกกก ก็เลยจัดแจงหาวิธีการเดินทางจากในแอพ
นั่งรถเมล์กันไป สำหรับค่าโดยสารรถเมล์ที่นี่อยู่ที่ 14 บาท (ถูกกว่าใต้ดินบาทนึง)
ก็ไปถึงโบสถ์สีทอง ในตำนานนนนน
เข้าไปก็ได้เห็นเค้ากำลังประกอบพิธีกรรมอยู่พอดี
เราเลยเดินวนๆอยู่ในนั้นได้แป็ปเดียวแล้วก็ออก เกรงใจเค้า
เราก็ไปหาคาเฟ่นั่งชิวกันต่อ เพราะว่าทั้งหิวทั้งหนาว (ทั้งทริปมีอยู่แค่นี้แหละ อิอิ)
ก็เลยไปนั่งฆ่าเวลากันที่คาเฟ่ใจกลางเมืองอีกครั้ง
เพราะเดี๋ยวต้องตุนเสบียงก่อนเดินทางบนรถไฟด้วย
พอสักทุ่มนึงเราก็กลับไปเอากระเป๋าที่โฮสเทล และก็เดินทางไปสถานีรถไฟกันเลย
นี่คือเสบียงตัวอย่างที่อยากอวด อิอิ
มิลค์คิส อารมณ์แบบคาพิโก้โซดา ที่เมืองนี้มีหลายรส เราต้องมีการชนมิลค์คิสพร้อมกันสี่คน แม้พี่ๆจะไม่อยากเล่นด้วย ก็บังคับจนได้อ่ะ อิอิ |
ขนมปังไส้มันฝรั่งและไส้กรอก ป้าที่สถานีรถไฟโฆษณาไว้ว่าอร่อยมากกกก กับไข่ต้มไม้สั้นไม้ยาว |
ออกเดินทางจากโนโวฯประมาณเกือบสี่ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นได้
เราจะเดินทางกันประมาณ 38 ชั่วโมง โดยจะไปถึงที่เมืองอิรคุสก์ประมาณ 6 โมงเช้า
(ตามเวลาท้องถิ่น +5 จากเวลามอสโก หรือ +2 เวลาไทย)
ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อคราวหน้านะ ว่าการเดินทางจะเป็นอย่างไรต่อไป
.....
.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น