วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

Trans-Siberian Lil Trip 5: Irkutsk อีรคุสก์ - ปารีสแห่งตะวันออก

ตามเส้นทางสายทรานส์ไซบีเรียแล้วจากเมืองโนโวซิบิสค์ไปอิรคุสก์
ต้องผ่านเมืองใหญ่ๆอย่างคราสนายาร์สค์ (Красноярск)
ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่อีกเมืองนึงของรัสเซียฝั่งตะวันออกด้วย

สถานีรถไฟตอนตะวันจะตกดินแล้ว
แล้วก็ยังผ่านบ้านของคนรัสเซียที่อาศัยอยู่แถบนี้ด้วย
เหมือนที่เคยเรียนสมัยมหาลัยตามที่อาจารย์บอกเลย
เป็นบ้านไม้ซุุง มีปล่องไฟไว้ผิงแบบบ้านในจินตนาการตอนเด็กๆ
แถบนี้จะมีอาณาบริเวณบ้านด้วย ซี่งปกติแล้วคนรัสเซียเค้าไม่ค่อยอยู่บ้านกันหรอก
ในเมืองใหญ่ๆจะอยู่กันเป็นอพารท์เมนต์มากกว่า
น่าจะเพราะระบบสาธารณูปโภคเข้าถึงง่ายกว่า และก็อุ่นกว่าด้วยอ่ะ



เราเดินทางกันมาจนถึงเมืองอิร์คุสก์ ปารีสแห่งตะวันออกกันตอนเช้าตรู่ 
6.45 น.โดยประมาณ (อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง เพราะผ่านมาจะปีละ)
แน่นอนว่าฟ้ายังไม่เปิด มืดตื้ดตื๋อเลยล่ะ

สถานีรถไฟที่อิร์คุสก์ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ ณ ตอนนั้น
cr: http://pribaikal.ru/ifo-photo/article/9454.html
ในภาพอาจจะดูสดใสสวยงามนะ แต่ตอนที่เราไปถึงคือมืดมาก
หนาวมากกกกก ณ ขณะนั้นอุณหภูมิอยู่ที่ -30 องศา
คือออกจากสถานีมา ต้องไปโฮสเทลกันก่อนเลย
เราพักกันที่โฮสเทลชื่อ โด-บรึย-คอท (แปลว่า แมวใจดี) Добрый Кот 
เป็นโฮสเทลที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟนัก เพราะเราพักกันแค่คืนเดียว 
และเพราะเรามาถึงช่วงเช้าแบบนี้ จะเข้าไปใจกลางเมืองที่อยู่อีกฝั่งนึงของแม่น้ำก็ลำบาก
สภาพตอนนั้นหลังเดินทางมากว่า 30 ชั่วโมง ทุกคนอยากอาบน้ำ นอนพัก ชาร์จแบต
เราใช้แบตที่เหลือสุดท้ายในการหาที่พัก แล้วเดินลุยดุ่ยๆกันไป 
จนกระทั่งมาถึงที่พักประมาณเกือบ 7 โมงครึ่ง 
ปกติเค้าให้เข้าที่พักกันตอนเที่ยง แต่อันนี้ทนหนาวไม่ไหวจริงๆ
คือที่โฮสเทลหน้าตาจะเป็นเหมือนตึกพาณิชย์บ้านเราแต่สภาพดีกว่านะ
เราก็เลยกดกริ่งเรียกพนักงานต้อนรับ นางก็ตื่นมาเปิดด้วยสภาพฝืนยิ้ม
แล้วความด้วยใจดีหรือเพราะนางง่วงก็ไม่รู้ เราก็เลยได้เข้าพักเลย :)
อาบน้ำ นอนกลิ้งๆกันได้แปปนึง ประมาณ 9 โมงเราก็ออกจากโฮสเทลค่ะ
อย่าค่ะ อย่าคิดว่าฟ้าสว่างสดใสรับไออุ่น 
มืดตื๋อเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือรถยนต์ค่ะ รถติดมากกกกกก
อยากจะถ่ายรูปมานะ แต่หนาวมากเพราะตอนนั้น -32 องศาเซลเซียสค่ะ
แต่ถ้าไม่เที่ยววันนี้ ก็จะไม่ได้เที่ยวแล้วนะคะ
ว่าแล้วก็นั่งรถเมล์ข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำกัน ค่ารถ 12 บาท (ถูกแฮะ)
ที่แปลกคือปกติคนรัสเซียเค้าขับรถกันฝั่งซ้าย ไทยฝั่งขวา
แต่ที่นี่ส่วนใหญ่ขับฝั่งขวาเหมือนไทย เพราะรถส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่น
พอข้ามฝั่งไปได้สองป้าย เราก็ลงกัน แถบๆใจกลางเมืองเลย
ฟ้าเริ่มสางแล้ว ทำให้เราได้พบว่า คนรัสเซียที่นี่ หน้าเหมือนเรา!!!
คือหน้าตาแต่ละคนเอเชียมากกก จีนมากก 
จนเราสี่คนกลายเป็นคนท้องถิ่นในบัดดล 
ท้องถิ่นขนาดที่คนรัสเซียที่หน้าตาฝรั๊งฝรั่งเดินมาถามทางกับเรา
ซึ่งเราก็งงๆเอ๋อๆตอบไม่ได้ค่าาา หนูก็เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันค่าาาา

กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด เราสี่คนก็จะต้องกินฉันนั้น
ร้านอาหารที่เราหากันมาได้ เป็นร้านอาหารรัสเซียแบบดั้งเดิมค่ะ
ชื่อร้าน"รุส Русь" ค่ะ เป็นร้านอาหารของโรงแรมรุสเองเลย
ที่แถบทะเลสาบไบคาลนี้ มีปลาชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อมาก
ค้นพบแค่ที่นี่ที่เดียวในโลกเท่านั้น
นั่นก็คือ "ปลาโอมูล"ค่ะ
เราก็เลยตัดสินใจกินอาหารรัสเซียกันนะมื้อนี้ ต้อนรับปลาโอมูลสวยๆ


บรรยากาศตอนเช้าตรู่
ปลาโอมูล ยินดีที่ได้รู้จัก
ปลาโอมูลที่เลื่องลือรสชาติใช้ได้เลย จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นกันต่อ
จริงๆเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวของรัสเซียเมืองหนึ่งเลย
เพราะป้ายบอกทางนางมีเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วย (นานๆๆจะเจอภาษาอังกฤษที)

ผังการเดินทางท่องเที่ยว

ระหว่างทางเดินก็จะเห็นซุ้มขายของ (Киоск) ต่างๆ
แต่ชอบซุ้มนี้ น่ารักดี หนาวขนาดนี้กินไอติมก็อร่อยดีนะ
แต่ต้องเป็นไอติมนมๆ ไม่ใช่เชอร์เบทหรือฉ่ำๆนะ
ซุ้มขายไอศครีม 
เดินมาเรื่อยๆตามถนนเลนิน (Улица Ленина) ถนนหลักอีกสายของเมืองนี้
แน่นอนว่าเมื่อชื่อถนนเลนิน ก็ต้องมีเลนินให้คุณดู
และเมื่อเดินผ่านท่านเลนินไปนิดนึง ฝั่งขวามือจะเป็นร้านขายของที่ระลึก
เราก็แวะซื้อของกับโปสการ์ดกันมาเก็บไว้ก่อนเลย
"สวัสดี สหาย" เลนินไม่ได้กล่าวไว้
ตึกสวยแบบไม่โซเวียต 
ตึกมหาวิทยาลัยไบคาล
เราเดินชมเมืองกันไปเรื่อยๆ ความหนาวเริ่มน้อยลง
เพราะอุณหภูมิเพิ่มขึ้น หรือเราเหนื่อยขึ้นก็ไม่รู้
ที่รัสเซียเนี่ย แต่ละเมืองจะมีตราสัญลักษณ์ของเขตเมืองและอาณา
ที่นี่เป็นเหมือนเสือไซบีเรียคาบสัตว์อยู่ในปาก
เป็นอนุสาวรีย์ตั้งอยู่โดดเด่นก่อนขึ้นสะพานข้ามไปอีกฝั่งของเมือง
สัญลักษณ์เมืองอิร์คุสก์
ปกติแล้วเวลาเที่ยวรัสเซีย เราก็จะชมจุดหลักๆของเมืองเค้าและก็โบสถ์
โบสถ์รัสเซียแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่เป็นนิกายออร์ธอด็อกซ์
ที่รับมาจากคอนสแตนติโนเปิ้ลตั้งแต่สมัยก่อน
แถมโบสถ์ที่สร้างแต่ละยุคก็แตกต่างกันด้วยนะ 
อารมณ์เหมือนการสร้างเจดีย์หรือพระพุทธรูปบ้านเรานั่นเอง

โบสถ์แรกของเราคือที่นี่ค่ะ ชื่อว่า Крестовоздвиженская церковь
ชื่อยาวแบบนี้ขอไม่แปลนะ 55555 สวยงามและอบอุ่นมากกกก
เพราะว่าอยู่ข้างนอกมันหนาวนั่นเอง
เราสี่คนก็ถ่ายรูปและเข้าไปข้างในพอเป็นพิธี

Крестовоздвиженская церковь
ต่อจากโบสถ์นี้เราก็ยังไปโบสถ์กันต่อ โบสถ์นี้ขึ้นชื่อมากกกก
ในเรื่องสถาปัตยกรรม เพราะสีสันสดใส เหมือนอยู่ในเทพนิยาย
แต่อยู่ออกจากใจกลางเมืองไปอีก เราสี่คนก็เปิดแอพหาเส้นทางกันเลย
แต่ แต่ แต่ด้วยสภาพอากาศหนาวๆแบบนี้ แบตไอโฟนลดฮวบ ฮวบ
ของเรากับพี่มี่เหลือแค่ไม่ถึง 20% แต่ก็ยังหาต่อไป
เรานั่งรถตู้ตามเส้นทางที่หาได้ ไปลงป้ายสุดท้าย แล้วเดินทะลุตลาดสดไป
จะเจอโบสถ์สีสันสดใสมากกกก
ชื่อว่า Градо-Иркутская церковь во имя Казанской иконы Божьей матери


ข้างหน้าโบสถ์ในหน้านี้มีน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปไอคอนด้วย
เก๋มากกกกกก
น้ำแข็งแกะสลัก
ภายในโบสถ์ก็จะตกแต่งแบบโบสถ์ทั่วไปในรัสเซีย
คือมีไอคอนโนตาซิส (Iconostasis) อยู่ เป็นชั้นๆ
ปกติแล้วในโบสถ์ของรัสเซียนี่จะวาดจนแทบไม่มีที่ว่างเลย แต่ถ้าเป็นของไบแซนไทน์จะวาดเฉพาะแนวเสา เพราะว่ามันเป็นในส่วนที่เป็นที่ค้ำยันอาคารรูปโดมเอาไว้ ภาพที่วาดก็จะวาดตามพระคัมภีร์นั่นแหละ



ไอคอนโนตาซิสสสส
จากโบสถ์นี้เราก็นั่งรถกลับมาในเมืองต่อไป ได้เวลากลับไปดูแถบริมแม่น้ำอังการ่า
เราก็จะเจอสถานที่ทำการของรัฐ แล้วก็บริเวณที่จุดไฟไว้อาลัยให้กับทหารที่ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งที่นี่เค้าเรียกกันว่า สงครามปกป้องมาตุภูมิ (นับเฉพาะในรัสเซียเท่านั้น)
และก็ยังเดินไปยังโบสถ์ต่างๆที่อยู่แถบนี้ด้วย สวยงามมมม

สถานที่ทำการของรัฐ

โบสถ์คริสต์ นิกายโปรแตสแตนท์ค่ะ

โบสถ์ Собор Богоявления สีสันสดใส
เห็นไอคอนเด่นๆอยู่ข้างนอก
แบบระยะใกล้ๆ
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นโบสถ์เช่นกัน โบสถ์นี้ชื่อว่า Троицкая церковь
โบสถ์ Троицкая церковь
เมื่อเดินผ่านทั้งสามโบสถ์เหล่านี้แล้ว ก็จะไปเจอกับอนุสาวรีย์ผู้ก่อตั้งเมือง
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอังการ่าเลย แม่น้ำนี้ก็ไม่ถูกทิ้งให้แข็งเป็นน้ำแข็งเช่นกัน
เพราะเป็นเส้นทางการคมนาคมสำคัญของแถบนี้ด้วย

ผู้สร้างเมืองอิร์คุสก์ ปารีสแห่งตะวันออก
นายยาคอฟ อิวานโนวิช โปฮาบาฟ (Яков Иванович Похабов)
เมืองนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1661 ค่ะ
ริมแม่น้ำอังการ่า เห็นอีกฝั่งของแม่น้ำเลย
ท่าเรือ
เราสี่คนเดินเล่นริมแม่น้ำ ตากลมกันเบาๆ (หรอออ)
จนกระทั่งท้องเริ่มร้อง แบตโทรศัพท์เริ่มหมด
ตอนนั้นคือไม่มีหรอกนะ ที่ชาร์จสำรงสำรอง ก็เลยไปแวะไปที่ร้านกาแฟชื่อดังของเมือง
ชื่อร้าน Lenin Str. Coffee ซึ่งก็ตั้งอยู่บนถนนเลนินนั่นเอง
หน้าตาก็คล้ายๆ Starbucks แหละ รสชาติใช้ได้ ราคาไม่แพง
และพนักงานน่ารักมากกกกก
ไปแอบเขียนโน้ตแปะไว้ด้วย เรานั่งหาขนมและกาแฟกินกัน
พร้อมชาร์จแบตไอโฟนไปด้วย เพราะต้องใช้ในการเดินทางกลับข้ามฝั่ง
เราก็เลยนั่งเขียนโปสการ์ดไปด้วยเลย :)

ร้านกาแฟท่านเลนินชื่อดัง

เอกเพรสโซ่กับโดนัทชอคโกแลต
เสร็จจากร้านกาแฟแล้ว เราก็เดินไปหาไปรษณีย์กันเพื่อจะส่งโปสการ์ด
ก็เดินดุ่ยๆไปส่งโปสการ์ดกัน ราคาเท่ากัน และถึงด้วย อิอิ
หลังจากส่งจดหมายกันเสร็จ ก็ไปหาอะไรกินกัน

ตึกระหว่างทาง
คือไม่ได้หิวมาก แต่กำลังจะกลับโฮสเทลแล้วเลยต้องตุนเสบียงลงท้องไว้ก่อน
ร้านที่เราจะไปกินกันก็คือร้านพิซซ่าชื่อดัง
ร้านป๊าป๋าจอห์นส์ «Папа Джонс» ซึ่งมีหลายสาขามากในรัสเซีย
ราคาไม่แพงด้วย เราสี่คนกินกันพิซซ่าหนึ่งถาด ไก่ทอดจานนึง น้ำ
เสียกันไปคนละ 200 กว่าบาทเอง ถือว่าคุ้มมากกกกก



หลังจากกินเสร็จ เราก็นั่งรถเมล์กลับข้ามฝั่งไปยังโฮสเทล
นั่งพัก เล่นเน็ต อาบน้ำ เก็บข้าวของ พักผ่อน
เพราะพรุ่งนี้เช้า รถที่เราติดต่อเอาไว้จะพาเราไปยังเกาะโอคอนแห่งทะเลสาบไบคาล

ปกติแล้วคนที่มาเที่ยวทะเลสาบไบคาลจะไปแค่เมืองใกล้ๆริมทะเลสาบ เหมือนไปเที่ยวทะเลบ้านเรา ไปเอาบรรยากาศ กินปลาโอมูลเผาอะไรแบบนี้ ตอนแรกเราเลือกจะไปนั่งรถไฟที่พาเที่ยวแถบนั้น แต่ก็ไม่มีให้บริการ เพราะอากาศหนาวเกินไป เราเลยเลือกไปเกาะกัน โดยติดต่อบริษัทที่พาเที่ยวพวกรถไฟ หรือพวกลากเลื่อน ลุยกีฬาตอนแรกนั่นแหละ 
แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟงต่อนะคะ ว่าการไปเที่ยวเกาะ 4 วัน 3 คืน
รวมการเดินทางไป-กลับ จะเป็นอย่างไรต่อไป 

......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น